การเดินทางของ แม่ฮ่องสอนซีเคร็ทส์
จากวันที่เพื่อนต้อง Borramuth Thippakanok ผอ.กลุ่มส่งเสริมสหกรณ์ในขณะนั้น ขอให้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาอะโวคาโดล้นตลาดของอำเภอแม่สะเรียงและสบเมย (ซึ่งจริงๆแล้วทางหอการค้าจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้เข้าไปช่วยดูแลเกษตรกรผู้ปลูกทั้งเสาวรส มะเขือเทศ ฟักทองจิ๋ว และพืชอื่นๆในพื้นที่ด้วย) เราได้คิดและช่วยกันแก้ไขมาหลายปีจนคิดว่าเกษตรกรทางนั้นรอดละ จึงเริ่มเข้าไปดูแลแหล่งปลูกอะโวคาโดพื้นที่อื่นๆในแม่ฮ่องสอนเพิ่มเติม และพบว่าเกษตรกรเจอปัญหาหลักๆคือราคาตก ของเหลือเต็มสวนและปล่อยทิ้งปล่อยเน่าไป
จึงได้มานั่งคิดและได้รับคำแนะนำจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพในหอการค้าไทย เรื่องการแปรรูปเป็นน้ำมันอะโวคาโด (จากสายพันธุ์แฮส ที่มีงานวิจัยรับรองแล้วว่าเป็นสายพันธุ์ที่ให้น้ำมันคุณภาพดีที่สุด) เลยค่อยๆศึกษาและทดลองกับตัวเอง กับแม่ และลูกชายก่อน เมื่อเห็นผลต่อสุขภาพในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน(มาก) จึงได้ผลิตออกสู่ตลาดโดยเริ่มแนะนำให้คนรู้จักแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่โฆษณาเกินจริง ไม่ push และเอาจริงๆไม่ค่อยอยากพูดให้ใครฟังมากเพราะเราเข้าใจดีว่าคนจะไม่ชอบการถูกขายของ วัดจากตัวเองที่ไม่ชอบให้คนมาขายอะไรให้
จากที่คนได้ทดลองกิน จากที่ได้ส่งไปถวายพระผู้ใหญ่ที่เคารพ จากเพื่อนแม่ เพื่อนเรา เพื่อนลูก และจากคนรอบข้างที่กินแล้วเห็นผลกับตัวเองชัดเจน เกิดการซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อปลายปี 66 มีลูกค้าชาวเกาหลีมาพักที่โรงแรม ได้ซื้อไปกินและสุขภาพเขาดีขึ้น นอนหลับสนิท ตื่นมาสดชื่น ท้องไม่ผูกอีกเลยจากที่เคยต้องใช้ยาระบายมาหลายปี และล่าสุดเขาไปตรวจสุขภาพแล้วบอกว่าไขมันเลวลดคลอเลสเตอรอลลด ความดันดีขึ้น จึงเป็นที่มาของการเซ็นสัญญาขอเป็นตัวแทนนำสินค้าไปจำหน่ายที่ประเทศเกาหลีอย่างเป็นทางการ
เรายังได้มีโอกาสประสานกับเครือข่ายเพื่อนฝูงจากหอการค้าออสเตรเลีย, เพื่อนจากเมืองจีน, คุณน้าจากฮ่องกง, พี่ๆน้องๆที่เคารพรักกัน มาช่วยส่งเสริมสนับสนุนการที่เราทำโครงการนี้ขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาอะโวคาโดล้นตลาดจนออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพยิ่ง ทุกคนได้กินได้ใช้ผลิตภัณฑ์และสุขใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแม่ฮ่องสอน
ล่าสุดมีผู้เชี่ยวชาญด้าน wellness ของมาเลเซีย ประสานมาจะบินมาเจรจาเพื่อนำผลิตภัณฑ์ไปกระจายในศูนย์ wellness ที่เขาดูแลอยู่ในมาเลเซียและดูใบ
หวังว่าอะโวคาโดบ้านเราจะมีทิศทางที่ดีนะคะ